เอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

เอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

เอ็กซเรย์ฟัน มะเร็ง

เอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงมะเร็ง เป็นเหตุให้เป็นมะเร็งจริงหรือ?

เอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ? การเอ็กซเรย์ฟันเป็นวิธีการวินิจฉัยโรคฟันและช่องปากที่มีความสามารถในการตรวจสอบภายในช่องปากของผู้ป่วยได้อย่างละเอียด แต่เมื่อก่อนมีข่าวลือว่าการเอ็กซเรย์ฟันอาจเป็นเหตุให้เกิดมะเร็ง เนื่องจากการเอ็กซเรย์ฟันใช้รังสีที่สูงกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้รับบริการ การเป็นมะเร็งเป็นโรคที่มีความร้ายแรงและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วย ดังนั้น การสืบค้นข้อมูลเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเอ็กซเรย์ฟันที่อาจเป็นเหตุให้เกิดมะเร็งเป็นเรื่องสำคัญในปัจจุบัน ในบทความนี้จะสำรวจว่าเอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงมะเร็งหรือไม่และเป็นเหตุให้เกิดมะเร็งจริงหรือไม่ โดยอ้างอิงจากข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดในด้านนี้ หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า รังสีจากการเอ็กซเรย์นั้นทำให้เป็นมะเร็งได้ เลยพลอยให้รู้สึกหวาดกลัวการเอ๊กซเรย์เกินกว่าเหตุ และทำให้เสียโอกาสในการรักษาโรคบางประการ เช่น ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับฟันที่จำเป็นจะต้องเอ็กซเรย์เพื่อตรวจสอบอาการที่แท้จริงจะได้แก้ไขได้ถูกต้อง แต่ความกลัวจะเป็นมะเร็งทำให้ไม่ยอมเอ็กซเรย์ เป็นต้น

เอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ? เป็นเหตุให้เป็นมะเร็งจริงหรือ

ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเอ็กซเรย์ฟัน

การกลัวเป็นมะเร็งมากจนไม่ยอมเอ็กซเรย์ฟันทั้งที่มีความจำเป็นเพราะการ ถอนฟันคุด ก็ต้องมีการเอ็กซเรย์ก่อน ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นความกลัวที่เกินกว่าเหตุ เปรียบเสมือนคนที่รู้มาว่า แสงแดดเป็นเหตุให้เกิดมะเร็งเพราะมีคนที่ชีวิตต้องอยู่กลางแดดบ่อยมากๆ เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง โดยลืมที่จะมองว่า ไม่ใช่ทุกคนที่โดนแดดเท่าๆ กันจะเป็นมะเร็งทุกคน

และแม้แต่บางคนที่ชีวิตไม่ค่อยโดนแดด ก็ยังเป็นมะเร็งผิวหนังได้ เรื่องการเอ็กซเรย์ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน คนเอ็กซเรย์ฟันก็มีความเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นมะเร็งได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เอ็กซเรย์จะเป็น และคนที่เป็นก็ไม่ใช่ทุกคนที่เคยเอ็กซเรย์ฟัน ดังนั้น ในเบื้องต้นจึงต้องกล่าวว่า การเอ็กซเรย์ฟันไม่ใช่สาเหตุของการเกิดมะเร็ง

เมื่อเข้าใจภาพรวมแล้วว่า การเอ็กซเรย์ไม่ได้เป็นต้นเหตุให้เกิดมะเร็ง ต่อไป ควรเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับรังสีเพิ่มเติม กล่าวคือ ชีวิตประจำวันของคนเรา มักคลุกคลีอยู่กับรังสีที่อยู่รอบๆ ตัวเราไม่น้อย และเป็นความจริงที่ว่า รังสีทุกชนิดมีทั้งอันตรายและประโยชน์ คนมีความรู้จะสามารถนำประโยชน์ของรังสีมาใช้งานได้ ภายใต้การควบคุมของตัวเอง ดังนี้

  1. เครื่องเอ็กซ์เรย์ฟัน เป็นเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ไฟฟ้าในการทำให้เกิดรังสี ไม่ได้ใช้สารกัมมันตรังสี โดยที่การทำงานของเครื่องเอ็กซเรย์ฟันก็ไม่ได้ปล่อยรังสีตลอดเวลา และขณะที่ปล่อยก็ใช้เวลาสั้นมากๆ เพียงแค่ประมาณ 1วินาทีเท่านั้น ถ้าไม่ได้มีการเสียบปลั๊ก แล้วกดปุ่มให้เครื่องทำงาน ก็จะไม่มีรังสีออกมา
  2. ในการใช้เครื่องเอ็กซเรย์แต่ละครั้ง ทันตแพทย์จะเลือกใช้เท่าที่จำเป็นในการดูแลรักษาประโยชน์ของคนไข้อยู่แล้ว รวมไปถึงตนเองที่อยู่ใกล้คนไข้มากที่สุดด้วย ดังนั้น วิธีใดจะทำให้คนไข้ได้รับรังสีน้อยที่สุด แพทย์จะเลือกทางนั้น
  3. ในห้องที่มีการใช้รังสี จะมีการป้องกันรังสีแพร่กระจาย โดยการสร้างเป็นผนังอิฐหรือใช้วิธีบุตะกั่วป้องกัน
  4. การใช้เครื่องเอ็กซเรย์ของทันตแพทย์ เป็นการใช้งานภายใต้การดูแลตรวจสอบให้เป็นไปด้วยดี เพราะหากมีการใช้โดยอยู่ภายใต้ความประมาท ทำให้คนไข้มีความเสี่ยงแล้ว ทางแพทย์นั่นเองที่จะต้องถูกตรวจสอบ และตั้งแต่มีการเปิดคลินิกทันตกรรมในประเทศไทย ความเสียหายที่เกิดจากเครื่องเอ็กซเรย์ไม่เคยมีการถูกร้องเรียนมาก่อนเลย นั่นแสดงว่า การใช้เครื่องเอ็กซเรย์ฟันภายใต้การควบคุมของแพทย์นั้น ใช้เพื่อประโยชน์ได้ดีจริง พึงหาความรู้ที่แท้จริงโดยไม่ตื่นตระหนกจนเสียโอกาสในการใช้เครื่องมือเพื่อการรักษาโรค และไว้ใจผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากกว่าคำเล่าลือต่อๆ กันมา

การเอ็กซเรย์ฟัน

เอ็กซเรย์ฟันการเอ็กซเรย์ฟัน (Dental X-ray) เป็นกระบวนการใช้รังสีเพื่อช่วยวินิจฉัยปัญหาด้านสุขภาพช่องปากและฟัน เอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถดูภาพรวมของฟันและส่วนอื่นๆ ภายในช่องปาก เช่น สามารถระบุได้ว่าฟันมีผลกระทบจากฟันข้างเคียงหรือไม่ มีเส้นประสาทหรือหลอดเลือดที่เสี่ยงต่อการเจ็บปวดหรือไม่ เป็นต้น

การเอ็กซเรย์ฟันมีหลายประเภท เช่น การเอ็กซเรย์แบบทั่วไป (Bitewing X-ray) ที่ใช้สำหรับตรวจสอบฟันโดยเฉพาะในแต่ละด้านของปาก และ การเอ็กซเรย์แบบตรวจสุขภาพปาก (Panoramic X-ray) ที่ใช้สำหรับดูรูปร่างของช่องปากและฟันในทั้งหมด

การเอ็กซเรย์ฟันเป็นการใช้รังสี แต่การใช้งานในปัจจุบันมีการควบคุมรังสีให้มากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อลดความเสี่ยงของผู้รับบริการและผู้ให้บริการ แต่ในบางกรณี การเอ็กซเรย์ฟันอาจเป็นอันตรายต่อผู้ตั้งครรภ์ ดังนั้น การตรวจสอบประวัติการรักษาและสภาพสุขภาพก่อนการทำการเอ็กซเรย์ฟันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนการเข้ารับการรักษา

ไปที่เรื่องของการเอ็กซเรย์ฟัน การเอ็กซเรย์ฟันมีข้อดีและข้อเสียดังนี้:

ข้อดี:

  • ช่วยในการวินิจฉัยและคัดกรองโรคฟันและช่องปากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
  • ช่วยตรวจสอบฟันและส่วนอื่นๆ ภายในช่องปากที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
  • ช่วยตรวจสอบการเจริญเติบโตของฟันและโครงกระดูกปากได้อย่างถูกต้อง
  • ช่วยในการวางแผนการรักษาโรคฟันและช่องปากให้ถูกต้อง

ข้อเสีย:

  • เป็นกระบวนการใช้รังสีซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในกรณีที่ใช้บ่อยและไม่มีการควบคุมรังสีอย่างเหมาะสม
  • การเอ็กซเรย์ฟันอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแพ้และอาการปวดหัว
  • การเอ็กซเรย์ฟันอาจไม่เหมาะสมสำหรับบางกลุ่มผู้ป่วย เช่น ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือเด็กทารกแรกเกิด
  • ต้นทุนการทำการเอ็กซเรย์ฟันอาจสูงและต้องการเครื่องมือที่มีความละเอียดสูง

ดังนั้น การเอ็กซเรย์ฟันควรจะพิจารณาใช้ในกรณีที่จำเป็นและมีการควบคุมรังสีอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของผู้รับบริการและผู้ให้บริการตามมาด้วยการดูแลสุขภาพช่องปาก


เอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงมะเร็ง จริงหรือไม่? เมื่อไรควรทำการเอ็กซเรย์ฟัน?

เอ็กซเรย์ฟันเสี่ยงต่อมะเร็งหรือไม่ ?

การทำการเอ็กซเรย์ฟันควรจะพิจารณาใช้เมื่อจำเป็นต้องมีการวินิจฉัยปัญหาด้านสุขภาพช่องปากและฟัน เช่น:

  • ตรวจสอบความเสียหายของฟัน: การเอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบความเสียหายของฟันได้ ทั้งเสียหายจากฟันผุ ฟันผุสึก ฟันผุบกว่าเดิม หรือก่อนการ ถอนฟันกราม
  • วินิจฉัยโรคฟันและเหงือก: การเอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคฟันและเหงือกได้ เช่น โรคฟันผุ โรคหินปูน โรคเหงือกอักเสบ โรคกระดูกและเนื้อเยื่อโครงกระดูกปา
  • ตรวจสอบการเจริญเติบโตของฟันและโครงกระดูกปาก: การเอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบการเจริญเติบโตของฟันและโครงกระดูกปากได้ ซึ่งสามารถช่วยในการวางแผนการรักษาโรคฟันและช่องปากได้อย่างถูกต้อง
  • ตรวจสอบการใส่เครื่องมือแก้ไขปัญหาฟัน: การเอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบการใส่เครื่องมือแก้ไขปัญหาฟันได้ เช่น การใส่เหล็กจักรแก้ไขทันตกรรมไม่ตรงขึ้นและการใส่เฟืองฟันปลอม
  • ตรวจสอบการเกิดฟันซ้อน: การเอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบการเกิดฟันซ้อนได้ เช่น ฟันซ้อน เพื่อวางแผนการรักษาฟัน
  • ตรวจสอบศักยภาพรักษา: การเอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบศักยภาพรักษาได้ เช่น การตรวจสอบประสิทธิภาพของการรักษาสำหรับโรคฟันผุ
  • ตรวจสอบเส้นประสาทและหลอดเลือด: การเอ็กซเรย์ฟันช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบเส้นประสาทและหลอดเลือดที่อยู่ในช่องปากได้ เพื่อลดความเสี่ยงของผู้รับบริการและผู้ให้บริการต่อการเจ็บปวดหรือการนำเข้าสารประสาท

โดยรวม การเอ็กซเรย์ฟันไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้งที่ไปพบแพทย์ทันตกรรม แต่ควรพิจารณาทำเมื่อมีความจำเป็นและเห็นว่าจะช่วยในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาโรคฟันและช่องปากให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพที่สุด เช่น ก่อนการจัดฟันหรือใส่ เหล็กดัดฟัน เป็นต้น


สรุปแล้วว่า ในสมัยหนึ่งเคยมีข่าวลือว่าการเอ็กซเรย์ฟันอาจเป็นเหตุให้เกิดมะเร็ง เนื่องจากการเอ็กซเรย์ฟันใช้รังสีที่สูงกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของผู้รับบริการ แต่ในปัจจุบันการเอ็กซเรย์ฟันได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่มีความละเอียดสูง เพื่อลดความเสี่ยงของผู้รับบริการและผู้ให้บริการ ดังนั้น การเอ็กซเรย์ฟันไม่เป็นเหตุให้เกิดมะเร็ง แต่การทำการเอ็กซเรย์ฟันควรพิจารณาใช้เมื่อจำเป็นและมีการควบคุมรังสีอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของผู้รับบริการและผู้ให้บริการตามมาด้วยการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างเข้มงวด

อ้างอิง:

Dental X-Rays. https://www.healthline.com/health/dental-x-rays

Dental X-rays. https://my.clevelandclinic.org/health/articles/11199-dental-x-rays

New research on dental X-ray risks. https://www.nature.com/articles/s41415-019-1028-6