ทำฟันปลอม มีกี่แบบดูแลยากหรือไม่? รวมข้อมูลที่คุณต้องรู้

ปัญหาเรื่องฟัน คือเรื่องใหญ่สุดกลุ่มใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในช่องปาก หรือ ปัญหาเกี่ยวกับเหงือกด้วย แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นปัญหาเรื่องการสูญเสียฟันก็มีมากขึ้นเช่นกัน เช่นผู้ใหญ่วัยทอง ที่กำลังมีหน้าตาทางสังคม หรือ การทำงาน แต่มีปัญหาเรื่องฟันก็ต้องมองหาการใส่ฟันปลอม รวมไปถึง ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียฟันก็คงจะต้องเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรื่องราวที่พูดถึง “ฟันปลอม” ไปในทางที่ไม่ดี แต่อันที่จริงแล้วเป็นอย่างไร วันนี้พวกเราจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการ ทำฟันปลอม ซึ่งจะมีกี่แบบ ดูแลยากหรือไม่ รวมไปถึงพูดถึงเรื่องนี้ทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การทำความรู้จัก รวมไปถึงการดูแลรักษาด้วย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้เลยในบทความนี้

ฟันปลอม คืออะไร

คงไม่มีใครในที่แห่งนี้ ที่ไม่รู้จัก “ฟันปลอม” แต่สำหรับความหมายที่แท้จริงของสิ่งนี้ คือ ตัวแทนของฟันที่เสียไป โดยมีคุณสมบัติที่สามารถใส่เข้าไป หรือ ถอดออกจากปากของเราได้ ถึงแม้ว่าฟันปลอมนั้น อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความคุ้มเคยให้เคยชินภายในปากของเรา ซึ่งเราจะไม่รู้สึกเหมือนเดิม เหมือนกับฟันธรรมชาติอีกต่อไป แต่แน่นอนว่าในปัจจุบัน ฟันปลอมถือได้ว่าดูเป็นธรรมชาติ และ สะดวกสบายมากกว่าสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ซึ่งฟันปลอมมี 2 ประเภท นั่นก็คือ ฟันปลอมแบบทั้งปาก กับ ฟันปลอมบางส่วน โดยผู้ที่จะเลือกว่าคุณจะต้องใส่ฟันปลอมแบบไหนอยู่ที่ ทันตแพทย์นั่นเอง โดยจะใช้แบบไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับฟันบางซี่ หรือ หมดทุกซี่ ที่จะต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน

สำหรับฟันปลอมที่เป็นชนิดใส่ทั้งปาก จะมีฐานเป็นอะคริลิคสีเหมือนกับเหงือกที่จะสามารถติดพอดีกับเหงือกของเรา โดยฐานของฟันปลอมจะติดกับตัวเพดานปาก ในขณะที่ฟันปลอมล่างก็จะมีลักษณะคล้ายกับเกือกม้าเพื่อที่จะมีพื้นที่ให้กับลิ้น ซึ่งการประสานกันนี้จะต้องแนะนำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือใครที่อยากใส่แบบถาวรในปัจจุบันนี้ก็ทีทั้งแบบ การทำสะพานฟัน และ การครอบฟันปลอม ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกด้วยเช่นกัน

ทำฟันปลอม มีกี่ประเภท

สำหรับฟันปลอมนั้น จะมีเอกลักษณ์ของแต่ละแบบต่างกันไป จากห้องปฏิบัติการทันตกรรม โดยการพิมพ์ปากของเรานั้น ทันตแพทย์จะตัดสินเองว่าฟันปลอมชนิดใดที่เหมาะกับเราบ้าง ซึ่งรายละเอียดของประเภทฟันปลอมมีดังต่อไปนี้

ฟันปลอมทั้งปากแบบดั้งเดิม ฟันปลอมประเภทนี้จะเป็นแบบดั้งเดิม จะถูกใส่หลังจากที่ฟันถูกถอนออกหมด รวมทั้งเนื้อเยื่อได้ฟื้นตัวแล้ว การฟื้นตัวของเนื้อเยื่อที่อาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน โดยในช่วงนั้นจะไม่มีฟันนั่นเอง

ฟันปลอมทั้งปากแบบทันที สำหรับฟันปลอมประเภทนี้ จะเป็น ฟันปลอมทั้งปากแบบทันที สวมใส่หลังจากที่ฟันทั้งหมดถูกถอนออก โดยทันตแพทย์จะทำการวัด รวมทั้งสร้างแบบจำลองของขากรรไกรในช่วงก่อน ถึงแม้ว่าฟันปลอมทั้งปากจะช่วยให้เราไม่ต้องอยู่แบบไม่มีฟันก็จริง แต่ฟันปลอมแบบนี้ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายเดือน หลังจากที่ใส่ไปแล้ว เพราะกระดูกที่รองรับฟันจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาที่ฟื้นตัวอยู่ ทำให้ฟันปลอมที่ใส่นั้นเกิดหลวมได้เช่นกัน

ฟันปลอมแบบบางซี่ โดยฟันปลอมแบบบางซี่ จะยึดโดยโครงโลหะที่จะติดกับฟันธรรมชาติของเรา โดยบางครั้งอาจจะต้องมีการครอบฟันที่ธรรมชาติ โดยจะทำหน้าที่เหมือนกับสมอสำหรับฟันปลอม โดยฟันปลอมแบบบางซี่อาจจะใช้เป็นสะพานฟัน

คำถามมากมายเกี่ยวกับฟันปลอม

เพียงแค่คำว่าฟันปลอม จะเกิดคำถามที่หลายคนสงสัยตัวอย่างเช่น เราจะใช้เวลาเท่าไหร่ ถึงจะคุ้นเคยกับการใส่ฟันปลอม รวมไปถึง ฟันปลอมนั้นจะสามารถอยู่ได้นานเท่าใด ซึ่งมีคำตอบได้ดังนี้

โดยก่อนเราจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะคุ้นชินกับฟันปลอมนั้น เพราะสิ่งแปลกใหม่ภายในปาก จะทำให้เรารู้สึกไม่สบายแน่นอน บางรายอาจจะเป็นเดือนด้วยซ้ำไป ดังนั้นแล้วการรับประทานอาหาร รวมทั้งการพูดเมื่อใส่ฟันปลอมก็จะต้องมีการฝึกตัวเองเล็กน้อย ซึ่งจะมีความรู้สึกแปลกใหม่เช่น การมีน้ำลายไหลออกมา ความรู้สึกว่าลิ้นมันคับปาก รวมทั้งการระคายเคือง แต่ถ้ามีการระคายเคืองมากก็ต้องรีบ พบทันตแพทย์ทันที

อีกหนึ่งคำถามก็คือ ฟันปลอมจะสามารถอยู่กับเราได้นานเท่าไหร่ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งของก็จะปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาด้วย เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นนั้น ปากของเราก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ จะทำให้ฟันปลอมที่เป็นของเดิมอยู่หลวมกว่าเดิมได้เช่นกัน ดังนั้นอย่างน้อยเลยก็คือ เมื่อรู้สึกเคี้ยวอาหารลำบาก หรือ ระคายเคืองเหงือก จะต้องรีบพบทันตแพทย์ทันที รวมทั้งต้องพบทุกปีเพื่อทำการตรวจสภาพของฟันปลอม

ข้อดี-ข้อเสีย ของฟันปลอมทั้งแบบถอดได้ กับ ติดแน่น

ฟันปลอมแบบถอดได้ จะมีข้อดีหลายประการก็คือ สามารถใส่ได้หลายซี่ รวมทั้งใส่ได้ทั้งปาก,จะง่ายต่อการถอดเพื่อทำความสะอาด และ ราคาจะค่อนข้างถูกกว่าฟันปลอมแบบติดแน่น แต่ทว่าข้อเสียก็มีมากมายเช่นเดียวกัน ก็คือ จะมีส่วนของเพดานปากที่ติดกับฟันปลอม จะทำให้รู้สึกรำคาญระหว่างพูด หรือ เคี้ยวอาหาร, เวลายิ้มจะเห็นตะขอของฟันปลอมได้ง่าย และ ประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารจะน้อยกว่าฟันปลอมแบบติดแน่น เพราะตัวแรงกดจากการเคี้ยวจะลงไปที่เหงือกมากกว่า
ฟันปลอมแบบติดแน่น จะมีข้อดีหลายประการตามราคาที่สูงกว่าแบบถอดได้ นั่นก็คือ จะให้ประสิทธิภาพด้านการเคี้ยว หรือ บดอาหารได้ดีเทียบเท่ากับฟันจริง เพราะแรงเคี้ยวจะกดลงที่ตัวฟันโดยตรง, จะทำให้ผู้ใส่ไม่รู้สึกรำคาญ เพราะไม่มีเหงือกปลอม หรือ ตะขอที่เกะเกะ,มีลักษณะที่ติดแน่นหลุดยาก ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด สำหรับข้อเสียก็มีมากเช่นกัน นั่นก็คือ ต้องมีการกรอฟันข้างเคียงเพื่อที่จะยึดฟันปลอม ซึ่งจะทำให้สูญเสียเนื้อฟัน ราคาของฟันปลอมจะสูงมากกว่าแบบถอดได้เป็นอย่างมาก และ เมื่อฟันปลอมติดแน่นถอดออกมาล้างทำความสะอาดไม่ได้ ถ้าการดูแลรักษาฟันไม่ดี ก็ส่งผลให้ฟันข้างเคียงเสียหาย เช่น ฟันผุได้ง่าย หรือ เป็นโรคเหงือกนั่นเอง

ขั้นตอนในการทำฟันปลอม

แน่นอนว่าใครที่กำลังเตรียมจะทำ ย่อมจะต้องกลัว หรือ เป็นกังวล นี่คือเรื่องธรรมดา คล้าย ๆ การที่คุณจะต้องอุดฟัน หรือ ถอนฟันครั้งแรก มักจะมีความกงวลตามมาเช่นกัน แต่ต้องบอกเลยว่าการทำฟันปลอมนั้นเมื่อได้สัมผัสจริงแล้วไม่ได้แตกต่างกับการถอนฟัน หรือ การอุดฟันซักเท่าไหร่นัก ซึ่งจะมีรายละเอียดการทำฟันปลอม ดังต่อไปนี้

ขั้นแรก ทางด้านทันตแพทย์จะเริ่มต้นถามประวัติคนไข้ มีการเริ่มตรวจช่องปาก พร้อมกับถ่ายรูป X-ray พร้อมพิมพ์แบบจำลองช่องปากของคนไข้
ขั้นที่สอง ทางด้านทันตแพทย์จะตรวจการเรียงตัวของฟัน พร้อมกับเลือกสีฟันที่ใกล้เคียงกับฟันเดิม รวมทั้งสร้างฟันปลอมขึ้นมาบนแบบจำลองนั้น ส่งผลให้ได้รูปฟันที่สวยงาม ขนาดพอดีกับการใส่เข้าไปในช่องปากของคนไข้
ขั้นที่สาม ทันตแพทย์จะใส่ฟันปลอม รวมทั้งแก้ไขตำแหน่งในการตำฟันปลอม ซึ่งจะมีการนัดพบคนไข้เพิ่มเติม สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนระยะเวลานั้นก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของฟันปลอมนั้น และสุดท้ายเมื่อใส่ฟันปลอมเรียบร้อยแล้ว ก็ควรที่จะกลับไปพบแพทย์ในช่วงเดือนแรก ๆ เพราะจะมีการปรับ หรือ ตกแต่งฟันปลอม ให้พอดีกับที่ปากนั่นเอง

ทำฟันปลอม มีวิธีดูแลอย่างไร?

นี่คือจุดที่ใครหลายคนที่ใส่ฟันปลอม เป็นกังวล เพราะฟันปลอมนั้นมี 2 แบบหลัก ๆ แต่ก็ต้องการคำตอบเกี่ยวกับการดูแลรักษาทั้งฟันปลอม รวมทั้งความเคยชิน ว่าจะทำอย่างไรถึงจะดีที่สุด สำหรับวันนี้พวกเราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อถือ กับ การดูแลการใส่ฟันปลอม ทั้งแบบถอดได้ รวมทั้งแบบติดถาวรด้วย ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การดูแลฟันปลอม รูปแบบถอดได้

ฟันปลอมที่ถอดได้มักจะมีการคลาดเคลื่อน หรือ ไม่แข็งแรงพอ ดังนั้นไม่ควรที่จะกินอาหารที่มีความเหนียว หรือ แข็ง เพราะจุดนี้จะทำให้ฟันปลอมทำงานหนัก และ อาจจะมีการหลุดของมาขณะเคี้ยวได้นั่นเอง
หลังมืออาหารทุกครั้งต้องถอดฟันปลอม ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม ขัดทำความสะอาดบริเวณฟัน เพื่อนำเศษอาหารออกไป
การตกหล่นต้องระวัง เพราะเมื่อไหร่ในส่วนที่เป็นพลาสติกหล่น จะทำให้แตก หรือ หักเสียหายได้
จะต้องไม่ใช้ยาสีฟันในการทำความสะอาด เพราะตัวสารขัดฟันในยาสีฟัน จะทำให้ฟันปลอมนั้นสึกลงได้เช่นกัน
เม็ดฟู่แช่ฟัน ถ้ารู้จัก เจ้าสิ่งนี้จะใช้เพื่อทำความสะอาดฟังปลอม รวมทั้งกำจัดโรถที่ซ่อนตัวอยู่นั่นเอง
ก่อนนอน ควรที่จะถอดฟันปลอมแช่น้ำ เพื่อคงรูปร่างของฟันปลอมเอาไว้ แน่นอนว่าในที่แห้งจะทำให้ฟันปลอมบิดเบี้ยว รวมทั้งไม่สามารถใส่ฟันได้สนิทกับเหงือกได้เหมือนเดิม

การดูแลฟันปลอม รูปแบบติดแน่น

การดูแลรักษาของฟันปลอมแบบติดแน่นนั้น จะดูแลแบบธรรมชาติทั่วไป โดยจะเน้นการแปรงบริเวณคอฟัน เหงือก โดยจะต้องใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันด้วย
ขอแนะนำให้เข้ารับการตรวจจากทันตแพทย์ตามนัดด้วย แต่ถ้าละเลย ก็จะทำให้ฟันซี่อื่นที่อยู่ข้างกันอาจจะผุตามไปด้วย

นี่แหละคือทั้งหมดของคำว่า “ฟันปลอม” ที่ดูเหมือนจะเข้าใจได้ไม่ยาก ถึงแม้เรื่องนี้จะยังมาไม่ถึงแต่เราก็ต้องเตรียมตัวเอาไว้บ้าง หรือ ครอบครัวไหนที่คนที่บ้านอาจจะต้องการใส่ฟันปลอม บอกได้เลยว่าถ้าได้อ่านทั้งหมดในบทความนี้ คุณจะเข้าใจการทำฟันปลอม พร้อมเปิดใจรับมากขึ้น ที่สำคัญในปัจจุบันนี้เอง การทำฟันปลอม ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลก เพราะความสุขของเราที่ยังได้รับรสอาหาร รวมทั้งได้บดเคี้ยวในสิ่งที่ชอบก็ถือได้ว่าเป็นความสุขที่สำคัญ อีกทั้งการมีฟันปลอมเพื่อรักษาสภาพปากที่ยังสวยงาม เท่าไหร่ก็พร้อมจ่าย พวกเราหวังว่าบทความของพวกเราในวันนี้จะทำให้คุณได้รู้จักกับ “ฟันปลอม” รวมทั้งการดูแลรักษาที่มากขึ้น และจะทำให้คุณหันมาดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีที่สุดอีกครั้ง

อ้างอิง:

–ฟันปลอม : คืออะไร มีกี่แบบ แบบไหนดี ข้อดี ข้อเสีย & ราคา. https://www.caredental.clinic/dental-replacement-tooth-denture/#fan_plxm_khux_xari_Denture

–ฟันปลอมคืออะไร – ต้องใส่ฟันปลอมนานไหมกว่าจะคุ้นเคย. https://www.colgate.com/th-th/oral-health/dentures/what-are-dentures