ยาสีฟันสมุนไพร คือ ยาสีฟันแนวธรรมชาติ จึงไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อสูขภาพ ขณะที่ยาสีฟันทั่วไปที่ใช้ตามบ้านส่วนใหญ่มีประกอบของสารเคมีสังเคราะห์เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสารทำความสะอาด สารกันบูด สารแต่งสี รสและกลิ่น รวมถึงยาฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ส่วนผสมเหล่านี้ในระยะยาวแล้วสารเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
แตกต่างจากการใช้ยาสีฟันสมุนไพรธรรมชาติที่จะไม่มีสารซักฟอกทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย เป็นตัวเลือกการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี และยังสามารถเพิ่มสรรพคุณโดยการเลือกใช้สมุนไพรที่หาได้ง่ายมาเป็นส่วนประกอบของยาสีฟัน ที่เราสามารถเลือกเองได้ ซึ่งตามความเป็นจริงมีสารธรรมชาติที่เราสามารถนำมาทำความสะอาดฟันได้อย่างสะอาดหมดจด อีกทั้งทำให้ฟันและเหงือกแข็งแรงอยู่มากมาย นอกจากนั้นสมุนไพรหลายชนิดก็มีคุณสมบัติช่วยรักษาและป้องกันโรคฟันและโรคเหงือกได้เป็นอย่างดี
สำหรับส่วนประกอบของยาสีฟันสมุนไพร ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยสมุนไพรต่างๆ อาทิ ข่อย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่โบราณมาแล้ว ช่วยในการรักษาผิวฟัน ขัดฟันให้ขาว ส่วนที่นำมาใช้คือ กิ่งเล็กๆ หรือเปลือก เนื่องจากพบว่าเปลือกข่อยมีสารเทนนิน มีฤทธิ์ในการระงับเชื้อได้ ในขณะเดียวกันจะช่วยเคลือบฟันได้ด้วย ส่วนกานพูลที่นำมาใช้มักจะเป็นดอกซึ่งมีน้ำมัน น้ำมันกานพลูมีฤทธิ์ในการระงับเชื้ออย่างอ่อน ช่วยลดอาการเสียวฟัน ดับกลิ่นปาก และรักษาอาการเหงือกเป็นหนอง บวมแดง อักเสบ แต่นอกจากการใช้ยาสีฟันแล้วเพื่อฟันที่สะอาดมากขึ้นหลังแปรงฟันทุกครั้งก็ควรใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดทุกซอกซอยด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ก็มี ยาสีฟันเกลือสมุนไพร ช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันโรคเกี่ยวกับเหงือก ฟันไม่เป็นรำมะนาด , ลิ้นทะเล (กระดองปลาหมึก) ใช้เป็นผงขัดฟัน , พิมเสน กับ การบูร ช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น , สะระแหน่ ช่วยดับกลิ่นปาก ปวดฟัน เจ็บปาก เจ็บลิ้น , การบูร , ชะเอมเทศ ใช้ในการปรุงแต่งรสชาติ , ใบมะรุม ป้องกันโรคฟันผุและโรคเหงือก , ว่านหางจระเข้ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย เช่น เหงือกบวม ป้องกันฟันผุ และโรคต่าง ๆ เกี่ยวกับช่องปาก
ยาสีฟันสมุนไพรต่างประเทศที่นำมาผสมในยาสีฟันจะพบว่ามีตัวหลักๆ คือ คาโมไมล์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เมอร์เปปเปอร์มิ้นท์ เสจ เอคชินาเซีย แรททาเนีย คือสมุนไพรที่นำมาผสมในยาสีฟันเพื่อช่วยในการรักษาโรคเหงือก , เห็ดหลินจือ ช่วยให้เหงือกและฟันแข็งแรง ป้องกันการเสียวฟัน เหงือกบวม รำมะนาด , โสม เป็นสมุนไพรที่มักใช้เป็นยาบำรุงกำลังก็มีการนำมาผสมในยาสีฟันก๊กเลี้ยง จาเป่า และรัสตี้
อย่างไรก็ตามยาสีฟันทั่วไปและ ยาสีฟันสมุนไพรธรรมชาติ ยังมีสารประกอบที่สำคัญอื่นๆ อีก เช่น
– สารขัดถู ทำหน้าที่ขัดถูผิวฟัน กำจัดเศษอาหาร คราบที่ติดอยู่บนผิวฟัน ในยาสีฟันทั่วไปใช้แคลเซียมคาร์บอเนตเป็นตัวการขัดถู ส่วนยาสีฟันธรรมชาติก็จะใช้แคลเซียมคาร์บอเนต และเกลือแกง ผงฟูหรือโซเดียมคาร์บอเนต โดยทั่วไปยาสีฟันสมุนไพรจะไม่ใช้สารขัดถูที่มีส่วนประกอบของอะลูมินัม แต่จะใช้สารประกอบของแคลเซียม เช่น อาทิ แคลเซียมคาร์บอเนต รวมทั้งใช้เกลือแกง ผงฟูหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต ปริมาณการใช้สารขัดถูในการผลิตยาสีฟันนั้น มีการใช้ตั้งแต่ 2-50 % ซึ่งน้ำหนักตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.45-2516) กำหนดให้สารขัดถูในผลิตภัณฑ์ยาสีฟันที่ผลิตออกจำหน่าย ต้องมีปริมาณสารขัดถูไม่น้อยกว่า 40%
– สารทำความสะอาด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันและเป็นยาสีฟันช่วยฟันขาว เพราะมีสารที่ใช้เป็นสารลดแรงตึงผิว อาทิ สบู่ หรือสารซักฟอก ใช้แปรงฟันแล้วเกิดฟอง สารนี้จะไม่เป็นพิษ ไม่ระคายเคืองต่อเยื่อบุในช่องปาก ยาสีฟันทั่วไปใช้สารซักฟอก ตัวที่นิยมคือสาร SLS ใช้ได้ไม่เกิน 2% แต่สำหรับในยาสีฟันธรรมชาตินี้จะใช้ผงสบู่ ไม่เกิน 1-2% หรือเกลือแกง ก็สามารถช่วยทำความสะอาดได้เช่นกัน
– สารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำหน้าที่ช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากในยาสีฟันทั่วไป มักจะใช้สารไตรโคลซาน ชนิดเดียวกับที่ใช้ในสบู่ยา ส่วนในยาสีฟันธรรมชาติจะใช้ผงฟู (โซเดียมไบคาร์บอเนต) สมุนไพรต่าง ๆ ที่บดเป็นผงและน้ำมันหอมระเหย เช่น อบเชย กานพลู เป็นต้น
– สารเพิ่มความชุ่มชื้น ใช้เฉพาะในยาสีฟันที่เป็นครีม เป็นสารเพิ่มความหวาน เพื่อให้รสหวานในยาสีฟัน ไม่ได้เป็นสารจำเป็นแต่อย่างใด ในกรณีที่จะใช้ก็จะใช้กลีเซอรีน หรือซอร์บีทอล
– สารปรุงแต่งกลิ่นและสี ในยาสีฟันสมุนไพรธรรมชาติ จะใช้น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดจากพืชสมุนไพร นอกจากช่วยแต่งกลิ่นและรสของยาสีฟันแล้ว ยังเพิ่มสรรพคุณในการป้องกันรักษาโรคในช่องปากด้วย เช่น น้ำมันหอมระเหยสะระแหน่ ผงอบเชย ผงกานพลู เป็นต้น
– ฟลูออไรด์ เป็นสารที่ช่วยทำให้เคลือบฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ ฟลูออไรด์ที่ใช้คือ โซเดียมฟลูออไรด์ หรือโซเดียมโมโนฟลูไรฟอสเฟต ต้องใช้ในปริมาณเจือจางมาก ๆ มีข้อควรระวังในการใช้สำหรับเด็กต่ำกว่า 6 ปี ใช้แล้วต้องบ้วนน้ำมาก ๆ ไม่ควรกลืน แต่ในยาสีฟันสมุนไพรธรรมชาติจะไม่ใส่
ย้อนกลับมาดูประวัติของยาสีฟันสมุนไพรธรรมชาติกันสักหน่อย ประวัติศาสตร์ของการใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันพบว่ามีมานานกว่า 2,500 ปีแล้ว เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศจีน ซึ่งใช้ขนหมูมัดติดกับไม้ไผ่ใช้แปรงฟัน ส่วนในอินเดียจะใช้กิ่งข่อยแปรง เช่นเดียวกับประเทศไทยใช้กิ่งข่อยและกิ่งสีฟันคนทำแปรงฟัน
ทั้งนี้ยาสีฟันเก่าแก่และโบราณที่สุดในโลก คือ เกลือ คนโบราณจึงใช้เกลืออมบ้วนปากและแปรงฟัน ต่อมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาดช่องปากเจริญรุดหน้า เราจึงได้เห็นแปรงสีฟันในรูปแบบต่างๆที่พบในปัจจุบัน ซึ่งยาสีฟันก็ไม่แตกต่าง มีการค้นพบสารซักฟอกที่ใช้ในการทำความสะอาด ยาสีฟันในปัจจุบันจึงมีทั้งฟอง รสชาติต่างๆกลิ่นที่แตกต่างกันไป
ซึ่งยาสีฟันในปัจจุบันนี้ ก็มีบทบาทสำคัญต่อการทำความสะอาดฟัน เนื่องจากสารขัดถูและสารทำความสะอาดที่เป็นส่วนประกอบหลักที่จะช่วยขจัดคราบฟันได้ดี และทำให้ฟันขาวสะอาด และยังมีสารตัวอื่น ๆ เพิ่มลงไปเพื่อช่วยเสริมในการดูแลปากและฟัน เช่น ฟลูออไรด์ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิวฟัน สารฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ช่วยลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก เป็นต้น ดังนั้น การเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
อ้างอิง:
–จริงไหม ? ยาสีฟันสมุนไพร ทำให้ฟันผุ !. https://www.apexprofoundbeauty.com/ยาสีฟันสมุนไพร-ฟันผุ/
–Herbal toothpastes . https://greenskins.com.au/blog/post/benefits-of-choosing-herbal-toothpaste-over-your-regular-one