คลินิกจัดฟันอโศกที่ไหนดีราคาถูก
คลินิกจัดฟันอโศก ข้อปฏิบัติในการรักษา
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง เหนียวและกรอบทั้งหลาย เช่น เคี้ยวก้อนน้ำแข็ง , กินปลาหมึก , ถั่ว , ลูกอม และหมากฝรั่ง เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้
- การรับประทานผัก ผลไม้ ควรตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กพอคำ และเคี้ยวด้วยฟันกรามข้างหลัง ควรเลือกรับประทานของอ่อน ๆ
- ในระยะแรกของการจัดฟันมักจะเจ็บฟันและอาจมีแผลเกิดขึ้นในช่องปาก ซึ่งอาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงในสัปดาห์ที่ 2 การลดการระคายเคืองโดยนำขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์ทาปิดทับตรงบริเวณที่แหลมคม รวมทั้งการดื่มน้ำให้มาก จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- ถ้ามีลวดเส้นเล็กๆ งอมาแทงริมฝีปากหรือแก้ม ให้ใช้ของไม่มีคม เช่น ยางลบปลายดินสอเช็ดแอลกอฮอล์ กดปลายลวดเข้าไป
- แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อลดการเกิดฟันผุในระหว่างการจัดฟัน
- ในระหว่างการจัดฟันควรพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน ทำความสะอาดฟันและตรวจฟันผุกับคลินิกจัดฟันทุกๆ 6 เดือน
Question : โดยปกติ คนทั่วไปควรเข้ารับการจัดฟันเมื่ออายุเท่าไหร่ดี?
Answer : การที่จะเริ่มให้รักษาจัดฟันเมื่ออายุเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับ ;
- หากมีความผิดปกติของ ขากรรไกรบนและล่างไม่เท่ากัน ก็ควรจะเริ่มการบำบัดรักษา ตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามและฟันดูสวยขึ้นจากการจัดฟัน
- หากมีความผิดปกติในการเรียงตัวของฟันเฉพาะตำแหน่ง ที่ถ้าทิ้งไว้ จะทำให้มีผลเสียต่อพัฒนาการของกระดูกขากรรไกรและฟันข้างเคียง ซึ่งการแก้ไขความผิดปกติดังกล่าวสามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก ก็ควรเข้ารับการปรึกษาจาก คลินิกจัดฟันอโศก ตั้งแต่เมื่อเริ่มพบเห็น ความผิดปกติ
- หากคนไข้มีอุปนิสัยที่ส่งผลเสียกระดูกและฟัน เช่น การกลืนที่ผิดปกติ , การกัดริมฝีปากและเล็บ , การดูดนิ้ว , การหายใจทางปาก ก็ควรจะเริ่มให้การบำบัดรักษาอุปนิสัยที่ผิดปกติดังกล่าวทันที
Question : ระยะเวลาในการจัดฟันกับคลินิกนั้นนานเท่าใด?
Answer : การจัดฟันนั้นจะยาวนานเท่าใด? ขึ้นอยู่กับ ความผิดปกติที่ต้องการแก้ไขและความร่วมมือของคนไข้ หากคนไข้ให้ความร่วมมือดี ผลการจัดฟันก็จะออกมาดีและใช้ระยะเวลาสั้น ซึ่งการรักษาโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี หรือ อาจสั้นกว่านั้น (ขึ้นอยู่กับอาการและความร่วมมือของผู้เข้ารับการจัดฟัน)
Question : จัดฟันที่คลินิกจัดฟันอโศก ราคาถูก หรือ ราคาแพง?
Answer : ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาการ , ลักษณะการรักษา และระยะเวลาในการบำบัดรักษา ทั้งนี้คนไข้ควรสอบถาม และตกลงถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด และวิธีในการชำระค่าใช้จ่ายจากทันตแพทย์จัดฟันผู้ให้การบำบัดรักษา ก่อนที่จะเริ่มต้นรับการจัดฟันจากคลินิกจัดฟัน
5 รูปแบบของการจัดฟัน อโศก
-
การจัดฟันแบบใส
การจัดฟันแบบใสจะใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพ สามมิติขึ้นมาบนจอคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างเครื่องอุปกรณ์การจัดฟันของท่าน โดยเฉพาะ โดยผ่านขั้นตอน การผลิตอันทันสมัย โดยเมื่อผลิตเสร็จจะได้ชุดเครื่องมือจัดฟันที่ท่านใช้ได้เพียงคนเดียวเท่านั้นออกมา
ข้อควรระวังของการจัดฟันแบบนี้คือการไม่สามารถจำกัดฟันในการเคลื่อนที่ได้มากเท่ากับการจัดฟันด้านใน และยังต้องใส่ใจเป็นพิเศษเนื่องจากอุปกรณ์ประเภทนี้นั้นจัดว่าใช้งานยากพอสมควรเลยทีเดียว
-
การจัดฟันแบบด้านใน
การจัดฟันแบบนี้ข้อดีคือจะไม่มีคนทราบว่าเราดัดฟัน และยังได้ใช้วัสดุจัดฟันที่มีลักษณะ พิเศษอีกด้วย ข้อควรระวังคือ บริเวณปากด้านในปากและลิ้น จะมีอาการเจ็บนิดหน่อยในช่วงแรกๆ แต่พอผ่านไปซักระยะ ลิ้นและปากก็จะปรับตัวได้และจะไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องดูแลรักษาอุปกรณ์ในช่องปากให้เป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เครื่องมือหลุดบ่อย จนจะทำให้เสียเวลาในการรักษานานขึ้น
-
จัดฟันแบบสีเหมือนฟัน
การจัดฟันแบบนี้จะใช้เครื่องมือจัดฟันแบบเซรามิกที่ออกแบบมาให้มีสีและความใสเหมือนฟันมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟัน แต่ต้องการความเนียนเข้าไปกับเนื้อฟัน ข้อควรระวังคือเครื่องมือจัดฟันแบบเซรามิกนี้ มีความสกปรกง่ายกว่าแบบโลหะ เพราะเซรามิก นั้นสามารถติดคราบสกปรกต่างๆได้ง่ายมาก ดังนั้นจึงควร ดูแลสุขภาพในช่องปากให้ดี เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง
-
จัดฟันแบบโลหะกึ่งใส
การจัดฟันแบบนี้จะช่วยลดความฝืดของเครื่องมือขณะที่ใช้ เคลื่อนฟัน และไม่ใช้ยางเป็นตัวช่วยแล้ว โดยจะใช้เครื่องมือคล้ายๆบานพับ ในการล็อคลวดไว้กับเครื่องมือแทน การจัดฟันแบบนี้จะทำให้ใช้เวลาในการจัดฟันเสร็จเร็วขึ้นเนื่องจากประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น การจัดฟันแบบนี้เหมาะมากสำหรับผู้จัดฟันที่ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางมาพบทันตแพทย์ทุกเดือน
-
จัดฟันแบบโลหะด้านนอก
การจัดฟันด้านนอกนั้นได้รับความนิยมสูงมากทั่วโลก เพราะมีขั้นตอนการรักษาที่ง่ายสุดๆ และไม่เปลืองเงินมากเท่ากับ 4 รูปแบบข้างบน อีกทั้งยังทำจากวัสดุโลหะที่มีคุณภาพสูงและดูแลความสะอาดง่าย ข้อเสียคือยางที่ใช้จัดฟันไม่ค่อยทนทาน จนต้องมาเปลี่ยนยางทุกเดือนนั่นเอง
ข้อควรระวังของการจัดฟันแบบนี้คือต้องมาพบ ทันตแพทย์ ตามนัดเสมอประมาณเดือนละครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาออกมาตามที่กำหนดไว้